เคมีอาหาร
all products in this category - 51 items / 6 pages
 
123456
โซเดียมเฮกซ่าเมตต้าฟอสเฟท (Sodium Hexametaphosphate)
โซเดียมเฮกซ่าเมตต้าฟอสเฟท (Sodium Hexametaphosphate)
โซเดียมเฮกซ่าเมตต้าฟอสเฟท (Sodium Hexametaphosphate) - เป็นผลึกใสเนื้อละเอียด หรือสีขาว ไม่มีกลิ่น เป็นสารที่ใช้คัดกรองหรือคัดแยก และช่วยการรวมตัวกับความชื้น สามารถละลายได้ดีในน้ำ แต่อาจจะละลายได้ช้า สารละลายของโซเดียมเฮกซ่าเมตต้าฟอสเฟทจะมี pH เท่ากับ 7 ถูกนำไปใช้ในการถนอมอาหารด้วยเกลือกับเมล็ดถั่วชนิดต่างๆโดยไม่ต้องแกะเมล็ดออก โดยสารโซเดียมเฮกซ่าเมตต้าฟอสเฟทจะช่วยให้น้ำเค็มสามารถซึมผ่านเข้าไปในเปลือกถั่วได้, ส่วนผักกระป๋อง จะใช้สารนี้ในการทำให้ผักอ่อนนุ่มเมื่อแช่หรือลวกด้วยน้ำ, ปรับปรุงคุณสมบัติ whipping ในวิปปิ้งโปรตีน, ใช้เป็นสารคัดแยกสำหรับแคลเซี่ยม, แมกนีเซี่ยม และสารกลุ่มฟอสเฟต, ป้องกันการรวมตัวกันเป็นเจลในนมสเตอริไรส์ สารนี้ยังถูกเรียกว่า โซเดียม เมตาฟอสเฟต หรือ เกลือของเกรแฮม

นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมดังต่อไปนี้
- อุตสาหกรรมบำบัดน้ำ
- อุตสาหกรรมสิ่งทอ
- อุตสาหกรรมซักรีด
- อุตสาหกรรมอาหาร
- อุตสาหกรรมเครื่องหนัง
- อุตสาหกรรมเม็ดสี
product code : chemical_000041
Retail (1.00 กระสอบ)N/A
โซเดียมเมตตาไบซัลไฟท์ (Sodium metabisulfite)
โซเดียมเมตตาไบซัลไฟท์ (Sodium metabisulfite)
โซเดียมเมตตาไบซัลไฟท์ (Sodium metabisulfite หรือ อาจเขียนเป็น Sodium metabisulphite) เป็นสารกลุ่ม ซัลไฟท์ (sulfites) ที่ใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหาร (food additive)  ในระบบ E-number มีรหัส E 223 มีลักษณะเป็นผงสีขาวหรือออกเหลือง ละลายน้ำได้ (ที่อุณหภูมิ 20 C ละลายได้ 54 กรัม / น้ำ 100ml ; ที่อุณหภูมิ 100?C ละลายได้ 81.7 กรัม /ต่อน้ำ 100ml ) สารละลายเป็นกรด ละลายได้ในกลีเซอรีน (glycerin) และละลายได้เล็กน้อยในเอธานอล (ethanol)

โซเดียมเมตตาไบซัลไฟด์จะสลายตัวเมื่อมีความชื้นสูง เมื่อสัมผัสอากาศจะถูกออกซิไดซ์เป็น sodium sulfate   และเมื่อสัมผัสกับกรดแก่ จะให้ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ สลายตัวที่อุณหภูมิ 150 C

การใช้ในอาหาร
- ใช้เพื่อเป็นสารกันเสีย (Preservative) 
- ใช้เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
- สารฟอกขาว (bleaching agent)
- ป้องกันปฏิกิริยาการเกิดสีน้ำตาลที่เกิดจากเอนไซม์ (enzymatic browning reaction)
product code : chemical_000042
Retail (25.00 kg.)N/A
โซเดียม ไทโอซัลเฟต (Sodium Thiosulfate)
โซเดียม ไทโอซัลเฟต (Sodium Thiosulfate)
โซเดียม ไทโอซัลเฟต (Sodium Thiosulfate) - ลักษณะเป็นผลึกใส เป็นสารคัดแยกหรือคัดกรอง, สารต่อต้านอนุมูลอิสระ, สารที่ช่วยในปฏิกิริยาการก่อตัว สารโซเดียม ไทโอซัลเฟต นี้มีรูปร่างเป็นผง สามารถละลายน้ำได้ ถูกนำไปใช้ในเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ในอัตราส่วน 5 ppm และใช้เป็นส่วนผสมในเกลือ 0.1% สามารถเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าโซเดียม ไฮโปซัลเฟต

สามารถใช้บำบัดน้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีพิษต่อสัตว์น้ำรวมทั้งไข่ และสัตว์น้ำวัยอ่อนในระดับที่ต่ำมาก จึงค่อนข้างปลอดภัยในการใช้ นิยมใช้กำจัดคลอรีนในน้ำ  อัตราส่วนที่ใช้ประมาณ ๕-๗ เท่าของปริมาณคลอรีน ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ในอัตรา ๑๐-๒๐ ppm ในน้ำประปา หลังจากเติมสารชนิดนี้ลงในน้ำแล้วสามารถนำน้ำนั้นมาใช้ได้เลย

product code : chemical_000043
Retail (25.00 kg.)N/A
โซเดียม ไตรโพลีฟอสเฟต (STPP - Sodium Tripolyphosphate)
โซเดียม ไตรโพลีฟอสเฟต (STPP - Sodium Tripolyphosphate)
โซเดียม ไตรโพลีฟอสเฟต (STPP - Sodium Tripolyphosphate) - เป็นเกลือโซเดียมของกรดไตรฟอสฟอริก มีลักษณะเป็นผงหรือเม็ดสีขาว ละลายน้ำได้ ผลิตได้จากปฏิกิริยาระหว่างโซเดียมไฮดรอกไซด์กับกรดฟอสฟอริก ไม่ใช่โซดาไฟ ส่วนโซดาไฟคือโซเดียมไฮดรอกไซด์ซึ่งเป็นด่างแก่

โซเดียม ไตรโพลีฟอสเฟต เป็นสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองเมื่อมีการสัมผัส ใช้มากในการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้ทั้งในอุตสาหกรรมและบ้านเรือน ผลิตภัณฑ์อาหาร อาหารสัตว์ โลหะ สี เยื่อกระดาษ และเซรามิกส์ แต่ที่ใช้กันมากจะเป็นการผลิตผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องน้ำและพื้นผิวต่าง ๆ โดยโซเดียม ไตรโพลีฟอสเฟตมีคุณสมบัติลดความกระด้างของน้ำช่วยให้การซักล้างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นสารบัฟเฟอร์ จับคราบสกปรกและกันไม่ให้สิ่งสกปรกย้อนกลับมาติดพื้นผิวอีก

สำหรับในอุตสาหกรรมอาหารจะช่วยเพิ่มการอุ้มน้ำของเนื้อสัตว์และอาหารทะเล ป้องกันโปรตีนเสื่อมคุณภาพ, รักษาสีสรรของผลิตภัณฑ์, ลดการเกิดเจลในน้ำผลไม้ และเนื้อแฮมกระป๋อง และทำให้ถั่วประป๋องมีความอ่อนนุ่ม, ลดการเหี่ยวย่นในอาหารจำพวกไส้กรอก สามารถเรียกชื่อได้อีกอย่างว่า เพนตะโซเดียม ไตรโพลีฟอสเฟต และโซเดียม ไตรฟอสเฟต
product code : chemical_000044
Retail (25.00 kg.)N/A
ซอร์บิทอล (Sorbitol)
ซอร์บิทอล (Sorbitol)
ซอร์บิทอล (Sorbitol) เป็นสารให้ความหวาน (sweetener) เป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ (sugar alcohol) ใช้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล (sugar substitute) ผลิตโดยปฏิกริยาไฮโดรจิเนชั่น (hydrogenation) ด้วยการเติมไฮโดรเจน ให้กับโมเลกุลของน้ำตาลกลูโคส (glucose) มีนิเกิลเป็นคะตะลิส (catalyste) ใช้วัตถุดิบคือน้ำเชื่อมกลูโคส (glucose syrup)

คุณสมบัติเด่น  
- มีรสชาติหวาน และเมื่อละลายจะให้ความรู้สึก เย็น ซ่า (cooling effect) เนื่องจากระหว่างละลายจะดูดพลังงานความร้อนเพื่อใช้เป็นความร้อนแฝงของการละลาย 
- ให้พลังงาน 2.6 แคลอรี่ต่อกรัม (เทียบกับน้ำตาลทรายซึ่งให้ 4 แคลอรี่ต่อกรัม)
- ร่างกายจะย่อยและดูดซึมช้ากว่าน้ำตาล จึงไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในลือดสูง
- เป็นยาระบายอ่อนๆ (laxative effect) เนื่องจากดูดซึมได้ช้า และตกค้างมาเป็นอาหารของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่
- ทนต่อกรดและความร้อนได้ดีกว่าน้ำตาลทราย และเกิดปฏิกริยาการเกิดสีน้ำตาลที่ไม่เกี่ยวข้องกับเอนไซม์ (non enzymatic browning reaction) ได้ยากกว่า
- เป็นสารที่แบคทีเรีย ไม่สามารถย่อยสลายให้เกิดสภาวะกรดในช่องปากได้ จึงไม่ทำให้ฟันผุ

การใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร
- ใช้เป็นสารแทนน้ำตาล (sugar substitute) ในผลิตภัณฑ์อาหารลดน้ำหนัก (diet food) อาหารให้พลังงานต่ำ (low-calorie) หรือไม่มีน้ำตาล (sugar-free)  และใช้ในอาหารสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน ในผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ เช่น เบเกอรี่ (bakery)  แยม (jam) หมากฝรั่ง ลูกกวาด ลูกอม และผสมเครื่องดื่ม (beverage)
- รักษาความชุ่มชื้น (humectant) ในผลิตภัณฑ์ 
- ป้องกันการตกผลึกของน้ำตาล ในการผลิตช็อกโกแลต ลูกกวาด ลูกอม
- ป้องกันการเกิดผลึกน้ำแข็ง (cryoprotectant) โดยไปทำให้จุดเยือกแข็ง (freezing point) ของอาหารลดลง น้ำในอาหารอยู่ในรูปของเหลวที่อุณหภูมิต่ำมาก จึงไม่เกิดผลึกน้ำแข็งที่ไปทำลายเซลเนื้อเยื่อ ใช้ในอาหารแช่แข็งเช่น ซูริมิ (surimi) ไอศกรีม (ice cream)
product code : chemical_000045
Retail (270.00 kg.)N/A
แป้งมันสำปะหลัง (Tapioca Starch)
แป้งมันสำปะหลัง (Tapioca Starch)
แป้งมันสำปะหลัง (Tapioca Starch) อาจเรียกว่า cassava starch คือสตาร์ซ (starch) ที่ผลิตได้จากหัวมันสำปะหลัง (tapioca) การใช้ประโยชน์ของแป้งมันสำปะหลังในอาหาร โดยจะใช้ใน แป้งดัดแปร (modified starch), น้ำเชื่อมกลูโคส (glucose syrup), มอลโตเดกซ์ตริน (maltodextrin) และสาคู (cassava pearl)

แป้งมันสำปะหลังโมดิฟายด์ (Modified Tapioca Starch) เป็นแป้งที่แปรสภาพจากแป้งมันสำปะหลังให้มีคุณภาพดีกว่าแป้งมันสำปะหลังธรรมดาทั่วไป เป็นเกรดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เนื้อบดละเอียดแปรรูปโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำรอบตัวเพื่อแปรสภาพเป็นเจลแล้วจับส่วนผสมต่าง ๆ ให้เกาะตัวกันดีและกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน มีประสิทธิภาพในการปรับสภาพเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปทุกประเภทโดยเฉพาะ ได้แก่ ลูกชิ้นทุกชนิด, หมูยอ, หมูเด้ง, หอยจ้อ, แฮกึ้น, แหนมเนือง และกุนเชียง เป็นต้น โดยไม่ให้ความรู้สึกที่เป็นแป้ง ทำให้ผลิตภัณฑ์เนื้อแปรรูปมีเนื้อสัมผัสที่เนียน, ผิวเรียบแห้งเร็ว ผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าวที่ใช้แป้งมันโมดิฟายด์เกรดดังกล่าวนี้ (แป้งโมดิฟายด์อย่างเดียวโดยไม่มีแป้งชนิดอื่นผสม) สามารถนำไปแช่แข็งได้โดยเมื่อนำมารับประทานด้วยการทำให้สุกใหม่แล้วเนื้อสัมผัสยังคงสภาพเดิมเหมือนผลิตมาใหม่ ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง
product code : chemical_000046
Retail (1.00 kg.)N/A
แซนแทนกัม (Xanthan Gum)
แซนแทนกัม (Xanthan Gum)
Xanthan Gum

แซนแทนกัม เป็นกัม (gum) ซึ่งเป็นสารไฮโดรคอลลอยด์ (hydrocolloid) ชนิดหนึ่ง
ใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหาร (food additive)

สามารถละลายได้ทั้งในน้ำเย็นและน้ำร้อน ซึ่งจะได้เป็นสารละลายที่มีความข้นหนึดสูง
แม้จะใช้ที่ความเข้มข้นต่ำ โดยความหนืดที่ได้จะทนต่อการแช่แข็งและการละลายน้ำแข็ง
เหมาะกับการผสมในซอส น้ำสลัด และอาหารประเภทต่าง ๆ ที่ต้องการให้มีความข้นหนืด

แซนแทนกัม สกัดได้จากเมือก (slime) ที่สร้างโดย แบคทีเรีย Xanthomonas campestris
ซึ่งมักพบในกะหล่ำปลี กระหล่ำดอก

โมเลกุลของแซนแทนกัม เป็นโพลีแซคคาไรด์ (polysaccharide) ประเภท heteropolysaccharide
ที่เป็นสายโพลิเมอร์ของ β-D-glucose มีโครงสร้างคล้ายกับเซลลูโลส (cellulose) แต่ทุกๆ 2 โมเลกุล
ของกลูโคส (glucose) เชื่อมต่อกับกิ่งของ trisaccharide ที่เกิดจากน้ำตาลแมนโนส (mannose) 2
โมเลกุลและ กรดกลูคูโรนิค (glucuronic acid) 1โมเลกุล โมเลกุลของแมนโนสที่อยู่ติดกับสายหลักมี
เอสเทอร์ของกรดอะซิติกที่คาร์บอนตำแหน่งที่ 6และแมนโนส ที่ตำแหน่งปลายของ trisaccharide มี
กรดไพโรวิคเชื่อมต่ออยู๋ที่คาร์บอนตำแน่งที่ 4 และ 6

วิธีการใช้งาน
ผสมในน้ำ (water-phase) หรือน้ำมัน (oil-phase) หากผสมในน้ำ ต้องคนด้วยความเร็วสูง จากนั้นปิด
ฝาภาชนะใส่สาร และเขย่าแรงๆติดต่อกัน 3-5นาที รอให้ set ตัว 20-30 นาที และเขย่าแรงๆต่อเรื่อยๆ
จนกลายเป็นเนื้อเจลที่สมบูรณ์ หากในสูตรมีน้ำมัน ให้ผสมในน้ำมัน (oil-phase) ก่อน จะทำให้ละลาย
ง่ายขึ้น

อัตราส่วนการใช้งาน
0.1-2% (ตามความหนืดที่ต้องการ แนะนำ 1%)
product code : chemical_000047
Retail (25.00 kg.)N/A
โพรพิลีน ไกลคอล โมโนสเตียเรท (Propylene Glycol Monostearate)
โพรพิลีน ไกลคอล โมโนสเตียเรท (Propylene Glycol Monostearate)
โพรพีลีน ไกลคอล โมโนเตียเรท (Propylene Glycol Monostearate)

โพรพีลีน ไกลคอล โมโนสเตียเรท (Propylene Glycol Monostearate) เป็นตัวทำละลาย (Solvent) สามารถละลายในน้ำ และแอลกอฮอล์ ใช้เป็นสารละลายในกลิ่นผสมอาหาร (Flavor) และหัวเชื้อกลิ่นต่างๆ หรือ สารเพิ่มอากาศในแป้งที่นวดให้เข้ากันของขนมปัง ใช้เป็นสารเพิ่ม ความชุ่มชื้น (moisturiser) ในเครื่องสำอางค์ และใช้เป็นสาร emulsifier และ disperser สำหรับผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมยา และอาหาร

โพรพิลีนไกลคอล เป็นสารกลุ่มไกลคอล (glycol) ตัวหนึ่ง มีความเป็นพิษน้อยกว่าเอทิลีนไกลคอล จึงถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะใช้เป็นตัวทำละลายในยาทา ยาฉีด และเครื่องสำอาง เช่น ครีมทาผิวชนิดต่างๆ ยาสีฟัน รวมไปถึงเป็นส่วนผสมในอาหาร พิษของโพรพิลีนไกลคอลถ้าเกิดขึ้น จะทำให้เกิดผื่นแพ้ที่ผิวหนัง กดประสาท เลือดเป็นกรด น้ำตาลในเลือดต่ำ เม็ดเลือดแตก ชัก และโคม่าได้

อุตสาหกรรมที่ใช้
ใช้เป็นตัวทำละลายในผลิตภัณฑ์กลุ่มยา (pharmaceutical) และเครื่องสำอาง (cosmetic) หลากหลายชนิด เช่น ครีมทาหน้า โลชั่นทาตัว แท่งดับกลิ่นใต้วงแขน ยาสีฟัน ยานวด ยาในรูปครีมทาผิวหนัง ใช้ผสมในอาหารคนและอาหารสัตว์ ใช้เป็นสารป้องกันการแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง (anti-freeze) ในระบบทำน้ำดื่มของประเทศเขตหนาว ใช้เป็นสารตัวกลางในอุตสาหกรรมการผลิตสารเคมีบางอย่าง เช่น พลาสติก เรซิน สี และน้ำยาเคลือบเงา

การนำไปใช้

1. ใช้เป็นตัวทำละลาย หรือ เจือจางน้ำหอม ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หรือใช้เป็นตัวทำละลาย หัวกลิ่นน้ำหอมเข้มข้น และในอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร
2. ใช้เป็นตัวทำละลายวิตามิน ชนิดที่ละลายในน้ำ
3. ใช้เป็นสารกันเสียในเครื่องสำอางที่อยู่ในรูปของครีม และอิมัลชั่น
4. ใช้เป็นตัวทำละลายสำหรับอุตสาหกรรมผลิตน้ำยาบ้วนปาก ยาสีฟัน ลิปติก ครีมทาผิว แชมพู

อายุการเก็บของสารเคมี
ประมาณ 2 ปีนับจากวันที่ผลิต เช่น ผลิต วันที่ 01/01/2015 ก็จะหมดอายุในวันที่ 01/05/2017

การจัดเก็บสารเคมี
- เก็บสารในที่แห้งและเย็น ไม่ให้โดนความชื้นและแสงแดด
- ปิดปากขวดทุกครั้งหลังการใช้งาน
- สามารถเก็บในตู้เย็นได้
product code : chemical_000048
Retail (1.00 ลิตร)N/A
no image
กรดแอสคอบิก (วิตามินซี)
กรดแอสคอบิก (วิตามินซี) C6H7NaO6
product code : chemical_000049
Retail (25.00 kg.)N/A
no image
โซเดียมมิ๊กฟอสเฟต
มิกส์-ฟอสเฟต  เป็นสารประกอบที่มีองค์ประกอบหลักประกอบด้วย สารประกอบฟอสเฟต เกลือของด่าง สารซีเควซเตรนต์ เป็นต้น โดยได้มีการคำนวณปริมาณที่เหมาะสมลงตัวในส่วนผสม เพื่อให้เหมาะสมกับการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารทะเลให้เกิดประโยชน์สูงสุด และรักษาความเป็นธรรมชาติอย่างดีที่สุด โดยสารประกอบที่ได้จะมีองค์ประกอบของฟอสเฟตอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมและมีสารที่มีคุณสมบัติคล้ายกับสารที่มีองค์ประกอบของฟอสเฟตอาทิเช่น ช่วยให้ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลมีการอุ้มน้ำได้ดี,โปรตีนมีการจับตัวกันดีขึ้น,ป้องกันการเกิดผลึกแก้ว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติของสารซีเควซเตรนต์ ป้องกันการเกิดจุดสีน้ำตาลบนผลิตภัณฑ์  เป็นต้น และวัตถุดิบที่ใช้ในส่วนผสมของ มิกส์-ฟอสเฟต เป็นวัตถุดิบที่อยู่ในมาตรฐานเกรดดีที่สามารถใช้รับประทานได้ เนื่องจากเป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปในนานาประเทศ จึงยืนยันได้ถึงความปลอดภัยมาตรฐานโลก

หลังจากใช้แล้วจะมีผลคือ
1.สินค้าได้น้ำหนักมากขึ้น
2.สภาพสินค้าจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
3.สีสันจะออกมาดีกว่า และเนื้อไม่แข็งกระด้าง
4.ลดปัญหาเกี่ยวกับ M-FOS ปริมาณฟอสเฟตที่เกินจากกำหนดตามมาตรฐานของประเทศคู่ค้า
5.ลดปัญหาเกี่ยวกับจุดสีน้ำตาลหรือจุดดำจากการเก็บสินค้าไว้ระยะเวลานานได้
จะเห็นได้ว่าทั้ง 4Q และ M-FOS ต่างก็มีวัตถุประสงค์และวิธีการใช้ไปในแนวทางเดียวกัน แต่จะแตกต่างกัน

วัตถุดิบที่ใช้ ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ได้ดีกับ  มิกส์-ฟอสเฟต ได้แก่
1.กุ้งทุกชนิด(เฉพาะกุ้งหัวหัก,กุ้งเนื้อ,กุ้งต้ม)
2.ปลา เช่น ปลากะพงแดง,ปลาเก๋า,ปลานิล,(เฉพาะเนื้อปลา fish fillets or meat)
3.ปลาหมึกกล้วย ปลาหมึกกระดอง ปลาหมึกสาย
4.ซูริมิและผลิตภัณฑ์ซูริมิ และผลิตภัณฑ์ลูกชิ้น

จะเห็นได้ว่าหลังจากการใช้วัตถุเจือปนอาหารทั้ง นอน-ฟอสเฟต และ มิกส์-ฟอสเฟต ต่างก็ได้ผลเช่นเดียวกับการใช้ฟอสเฟตในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ส่งออกหลายรายมาใช้ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิดนี้ ซึ่งนอกจากจะใช้ฟอสเฟตไม่ได้เพราะประเทศคู่ค้าได้กำหนดมาตรการไว้แล้ว เหตุผลส่วนหนึ่งคือราคาฟอสเฟตสูงมาก  สาเหตุเพราะเกิดจากประเทศต้นทางของวัตถุดิบพยายามเก็บวัตถุดิบไว้ใช้ในประเทศเอง เพราะฉะนั้นบริษัทที่ซื้อวัตถุดิบมาผลิตในประเทศไทยจึงซื้อได้ในราคาสูง เพราะฉะนั้นจึงทำให้ต้องจำหน่ายในราคาสูงขึ้น
product code : chemical_000050
Retail (21.00 kg.)N/A